กลยุทธ์การบริหารจัดการเงิน

วันนี้ผมจะนำเสนอกลยุทธ์การบริหารจัดการเงินที่เกี่ยวกับการเพิ่มทุน - อาจจะเรียกว่ากลยุทธ์การบริหารจัดการเงินเพื่อการ “มีชีวิตรอด” ก็เหมาะสมกว่า เนื่องจากสิ่งที่มันเกี่ยวข้องไม่ได้เป็นเพียงเกี่ยวกับการเพิ่มทุนอย่างเดียว

การเริ่มต้น

สมมติว่าตอนนี้เรามีบัญชี 100,000 บาทอยู่ในสถานะว่างเปล่า เมื่อตั้งเป้าในการทำให้มันถึง 200,000 บาท (การเพิ่มเป็นสองเท่า) ก่อนอื่นให้แบ่งเงินในบัญชีนี้ออกเป็น 5 ส่วน แต่ละส่วนเรียกว่าหน่วยการซื้อขาย หมายความว่าในการซื้อขายแต่ละครั้งจะใช้เงิน 20,000 บาท และเราจะทำตามขั้นตอน 7 ขั้นตอนในการดำเนินการจาก 100,000 บาทไปยัง 200,000 บาท ในแต่ละขั้นตอน จำนวนเงินที่ใช้ในการหยุดการขาดทุนจะเป็น 10% ของจำนวนเงินที่ลงทุนในขั้นตอนนั้น หากเกิน 10% ให้หยุดการขาดทุนโดยไม่เงื่อนไข โดยปกติแล้วค่าใช้จ่ายในการซื้อขายรวมอยู่ใน 10% หรือไม่ ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล ข้อแนะนำของฉันคือรวมเข้าไปด้วย

ขั้นตอนที่ 1

การดำเนินการในขั้นตอนที่ 1 ลงทุนเพียงหน่วยการซื้อขายเดียว - 20,000 บาท ขณะนี้เงินลงทุนทั้งหมดคือ 20,000 บาท สัดส่วนการถือครองคือ 20,000/100,000 = 20% เนื่องจากตั้งใจจะหยุดการขาดทุนที่ 10% ของเงินที่ลงทุน ดังนั้นจำนวนเงินที่หยุดการขาดทุนสูงสุดคือ 2,000 บาท เมื่อขาดทุนเกิน 2,000 บาทให้หยุดการขาดทุนโดยไม่เงื่อนไข ขณะนี้จำนวนเงินที่หยุดการขาดทุนเป็นเปอร์เซ็นต์ของสินทรัพย์รวมเป็น 2,000/100,000 = 2% ให้ระวังทำรายการ 20,000 บาทนี้ให้ดี เมื่อมีกำไรถึง 20% นั่นคือ มีกำไร 4,000 บาทแล้วสามารถเข้าไปยังขั้นตอนถัดไป (เมื่อสิ้นสุดขั้นตอนที่ 1 สินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้นเป็น 104,000 บาท กำไร 4% จากสินทรัพย์รวมเริ่มต้น) ถ้าหากการดำเนินการในขั้นตอนนี้ไม่เป็นไปตามแผน และสุดท้ายต้องหยุดขาดทุน ยังมีเงินคงเหลืออีก 90,000 บาทเพื่อใช้เป็นทุนสนับสนุน สามารถใช้หน่วยการซื้อขายหนึ่งหน่วยในการกลับเข้าตลาดได้ใหม่

ขั้นตอนที่ 2

ในขั้นตอนที่ 1 ที่เราได้มีกำไรแล้ว เราจะเริ่มเพิ่มทุน ตอนนี้ลงทุนหน่วยการซื้อขายใหม่ ขณะนี้ทุนที่ใช้ในการซื้อขายรวมเป็น 40,000 บาท สัดส่วนการถือครอง 40,000/104,000 = 38.46% จำนวนเงินหยุดการขาดทุนสูงสุดคือ 4,000 บาท ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 4,000/104,000 = 3.85% ถ้าหากขาดทุนเกินค่านี้ จะหยุดการขาดทุนโดยอัตโนมัติ โปรดทราบว่าในขั้นตอนที่ 1 เรากำไร 4,000 บาท เพียงแค่ต้องหยุดการขาดทุนอย่างเคร่งครัด เงินทุนเริ่มต้นแทบจะไม่สูญเสีย เมื่อการดำเนินการครั้งนี้มีกำไรอีก 20% นั่นคือ 40,000?20%=8,000 บาท เราสามารถเข้าสู่ขั้นตอนที่ 3 ได้ (เมื่อสิ้นสุดขั้นตอนที่ 2 สินทรัพย์รวมจะกลายเป็น 112,000 บาท กำไร 12% จากสินทรัพย์รวมเริ่มแรก)

ข้อควรระวังในขั้นตอนที่ 2

ที่นี่ต้องเน้นว่าหากเกิดสถานการณ์หยุดการขาดทุนในขั้นตอนที่ 2 สินทรัพย์รวมตกลงต่ำกว่า 104,000 บาท ซึ่งเป็นการสิ้นสุดของขั้นตอนที่ 1 จะต้องกลับไปยังขั้นตอนที่ 1 โดยการลงทุนเพียงหน่วยการซื้อขายหนึ่งหน่วย จนกว่าสินทรัพย์รวมจะกลับไปยัง 104,000 บาทขึ้นไป จากนั้นถึงจะดำเนินการขั้นตอนที่ 2 ใหม่

ขั้นตอนที่ 3

หากขั้นตอนที่ 2 ดำเนินการได้ดี ตอนนี้เราจะเพิ่มทุนอีก ทำการเพิ่มหน่วยการซื้อขายอีกหนึ่งหน่วย เงินทุนที่ลงทุนตอนนี้รวมเป็น 60,000 บาท สัดส่วนการถือครองอยู่ที่ 60,000/112,000 = 53.57% จำนวนเงินหยุดการขาดทุนสูงสุดอยู่ที่ 6,000 บาท คิดเป็นสัดส่วน 6,000/112,000 = 5.36% โปรดระวัง ในขั้นตอนที่ 2 เรามีกำไร 8,000 บาท และเมื่อรวมกับกำไรจากสองขั้นตอนที่ผ่านมา เราก็จะมีกำไรทั้งหมด 12,000 บาท ตราบใดที่หยุดขาดทุนอย่างเคร่งครัด จำนวนขาดทุน 6,000 บาทจะไม่มีผลกระทบต่อเงินทุนเริ่มต้น เมื่อการดำเนินการในครั้งนี้มีมีกำไรอีก 20% นั่นคือ 60,000?20%=12,000 บาท สามารถดำเนินการเข้าสู่ขั้นตอนที่ 4 ได้ (เมื่อสิ้นสุดขั้นตอนที่ 3 สินทรัพย์รวมจะกลายเป็น 124,000 บาท กำไร 24% จากสินทรัพย์รวมเริ่มต้น)