ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตรา

ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราเป็นตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดและมีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุดในโลก โดยมียอดการซื้อขายเกินห้าหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐต่อวัน ในอดีต ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราได้รับการควบคุมโดยธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ของโลก ซึ่งมักจะเสนอราคาแลกเปลี่ยนที่ดีให้กับลูกค้ารายใหญ่ของพวกเขาเท่านั้น ทว่า ด้วยการขยายตัวของการซื้อขายออนไลน์ นักลงทุนรายย่อยและสถาบันขนาดเล็กทุกคนสามารถเข้าร่วมซื้อขายในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราผ่านโบรกเกอร์ที่มีอยู่ทั่วโลกได้

ปริมาณการซื้อขายในตลาด

ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราเป็นตลาดที่มีการซื้อขายที่คึกคักที่สุดในโลก โดยทำการซื้อขายตลอด 24 ชั่วโมงตั้งแต่เช้าวันจันทร์ถึงเช้าห้าวันเสาร์ ปริมาณการซื้อขายที่มากมายทำให้ผู้ค้าสามารถเข้าถึงตลาดเพื่อทำการซื้อขายได้ตลอดเวลาตามที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นปริมาณการซื้อขายมากหรือน้อยก็ตาม

สามารถทำกำไรได้ในตลาดขาขึ้นและขาลง

ตลาดเงินตรามีความแตกต่างจากตลาดหุ้น โดยไม่มีข้อจำกัดในการขายชอร์ต ผู้ค้าสามารถทำกำไรได้ไม่ว่าจะเข้าซื้อหรือขายสองทางก็ตาม รวมถึงความรับผิดชอบทางการตลาดที่ทำให้ผู้ลงทุนทุกคนมีโอกาสในการทำกำไรในสภาวะตลาดที่สูงหรือต่ำ

ค่าใช้จ่ายในการซื้อขายต่ำ

ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราไม่มีค่าธรรมเนียมในการซื้อขายและการชำระเงิน ทำให้ลดค่าใช้จ่ายในการซื้อขายลงได้ และตลาดการซื้อขายอิเล็กทรอนิกส์ยังเพิ่มประสิทธิภาพในการซื้อขายให้มากยิ่งขึ้น ทำให้ผู้ค้าสามารถทำการซื้อขายกับผู้ให้บริการโดยตรง ทำให้ไม่มีการใช้คนกลางหรือค่าธรรมเนียมตั๋ว ตลาดเงินตรายังให้โอกาสแก่ผู้ลงทุนในการเข้าสู่ผู้ให้บริการระหว่างวันและการซื้อขายข้ามคืนในสเปรดที่แคบ

แนวโน้มตลาดที่ชัดเจน

การเคลื่อนไหวของเงินตรานั้นไม่ค่อยอยู่ในช่วงการซื้อขายที่แคบ และมักจะมีแนวโน้มที่แข็งแกร่ง ปริมาณการซื้อขายส่วนมากมีลักษณะการเก็งกำไร การวิเคราะห์ทางเทคนิคสามารถช่วยให้นักลงทุนค้นพบแรงขับเคลื่อนใหม่และจุดที่ผ่านได้ ซึ่งการวิเคราะห์เหล่านี้มอบโอกาสที่ไม่สิ้นสุดในการทำกำไรในตลาดเงินตรา

การซื้อขายแบบเลเวอเรจ

การซื้อขายแบบเลเวอเรจคือการใช้เครื่องมือทางการเงินหรือการยืมเงิน (เช่น การซื้อขายผ่านมาร์จิ้น) เพื่อเพิ่มผลตอบแทนที่เป็นไปได้จากการลงทุน อัตราส่วนเลเวอเรจที่เสนอในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราเป็นหนึ่งในเหตุผลหลักที่ดึงดูดนักลงทุนจำนวนมาก การซื้อขายแบบเลเวอเรจ หรือการซื้อขายผ่านมาร์จิ้น ทำให้ผู้ค้าสามารถทำการซื้อขายโดยไม่ต้องจ่ายมูลค่ารวมของสัญญาเงินตรา และสามารถได้รับผลตอบแทนสูงจากการเคลื่อนไหวเล็กน้อยในตลาด สิ่งที่สำคัญคือการซื้อขายแบบเลเวอเรจช่วยให้นักลงทุนใช้เงินทุนที่น้อยกว่าเพื่อเพิ่มความสามารถในการซื้อของพวกเขา แน่นอนว่าอัตราส่วนเลเวอเรจที่สูงยิ่งขึ้นจะทำให้ความเสี่ยงในการซื้อขายเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

การวิเคราะห์แนวโน้มอย่างง่ายดาย

ตลาดหุ้นและฟิวเจอร์สเสนอทางเลือกในการลงทุนที่หลากหลาย รวมถึงหุ้นนับพัน หุ้นในกองทุนรวม และฟิวเจอร์สหลายร้อยรายการ ซึ่งใช้เวลาหลายช่วงเวลาในการวิเคราะห์แนวโน้มของการลงทุนเหล่านี้ ในขณะที่ตลาดเงินตราให้โอกาสในการติดตามตลาดได้ง่าย เพราะเพียงแค่คุณต้องเข้าใจการเคลื่อนไหวของสกุลเงินที่มีการซื้อขายเยอะที่สุดถึงห้าประเภท ได้แก่ เงินยูโร, เงินเยน, เงินปอนด์, เงินฟรังก์สวิส และเงินดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงเงินดอลลาร์ออสเตรเลียและเงินดอลลาร์แคนาดา สรุปรวมเป็นการวิเคราะห์สกุลเงินถึงเจ็ดประเภทเพื่อวางแผนการลงทุนของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ.