การวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจแตกต่างกัน

เนื่องจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของแต่ละประเทศแตกต่างกัน ดังนั้นเมื่อวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ จึงควรให้ความสำคัญแตกต่างกันไปด้วย และช่วงเวลาในการวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจก็มีผลต่อข้อมูลเช่นกัน นักลงทุนหลายคนในอดีตมีความรู้สึกว่าไม่รู้จะเริ่มต้นจากอะไรเมื่อพูดถึงการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน โดยเฉพาะการใช้ข้อมูลเศรษฐกิจ ดิฉันจะใช้ข้อมูลของสหรัฐอเมริกาเป็นตัวอย่าง

ความสำคัญของข้อมูลเศรษฐกิจ

ลำดับความสำคัญของข้อมูลเศรษฐกิจที่แตกต่างกันไปในแต่ละประเทศและช่วงเวลา โดยมีความสำคัญและผลกระทบต่อตลาดที่แตกต่างกันไปตามการเปลี่ยนแปลงของตลาด ดังนั้นในทางปฏิบัติ การพิจารณาความสำคัญของข้อมูลเศรษฐกิจในช่วงเวลาปัจจุบันจึงเป็นสิ่งสำคัญ สำหรับสหรัฐอเมริกา ข้อมูลเศรษฐกิจที่มีผลกระทบต่ออัตราแลกเปลี่ยนเงินดอลลาร์หลักๆ ได้แก่:

• ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP)
• ดุลการค้า
• อัตราเงินเฟ้อ/ระดับอัตราดอกเบี้ย
• อัตราการว่างงาน/ข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตร
• ข้อมูลการขายปลีก
• ความเชื่อมั่นของผู้บริโภค/ข้อมูลเศรษฐกิจการค้า
• ข้อมูลผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม/ข้อมูลการผลิต

การเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิดในข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญมักจะสร้างความผันผวนในตลาดในระยะสั้น และอาจส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงในตลาดการเงินอื่นๆ ดังนั้นจึงไม่มีลำดับความสำคัญที่เป็นมาตรฐาน เนื่องจากผลกระทบของข้อมูลในแต่ละช่วงเวลาก็แตกต่างกันไป เมื่อต้องวิเคราะห์ข้อมูลที่มีความสำคัญ อาจเรียงลำดับได้ค่อนข้างสำคัญตามนี้:

• ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ
• ข้อมูลเงินเฟ้อ
• ข้อมูลการค้าระหว่างประเทศ
• ข้อมูลการว่างงาน
• ข้อมูลการขายสินค้า
• ข้อมูลความเชื่อมั่น
• ข้อมูลการผลิต

ขั้นตอนการวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจ

การวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่กำหนด โดยทั่วไปแล้วดำเนินการตามขั้นตอนดังนี้:

1. ขั้นตอนแรก ควรทราบเวลาในการเผยแพร่ข้อมูล
2. ขั้นตอนที่สอง ตรวจสอบค่าก่อนหน้าและความคาดหวังของตลาด (ในอดีตข้อมูลในส่วนนี้อาจหาได้ยาก แต่ปัจจุบันนักลงทุนสามารถเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ได้อย่างรวดเร็วผ่านทางอินเทอร์เน็ต)
3. ขั้นตอนที่สาม เข้าใจจุดเน้นของตลาดในปัจจุบันและสถานการณ์เศรษฐกิจล่าสุดของประเทศนั้นๆ
4. ขั้นตอนที่สี่ ประเมินความสำคัญของข้อมูล
5. ขั้นตอนที่ห้า ทำการวางแผนสำหรับการตัดสินใจและการค้า

ด้วยขั้นตอนทั้งห้านี้ ทำให้เรามีภาพรวมเกี่ยวกับข้อมูลเศรษฐกิจที่จะเผยแพร่ในอนาคตและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อตลาด

การเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์การซื้อขาย

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากตลาด Forex มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และเราไม่สามารถติดตามข้อมูลตลาดทั้งหมดได้ ดังนั้นเมื่อทิศทางการตลาดเปลี่ยนแปลง เราต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การซื้อขายให้ทันต่อสถานการณ์ โดยไม่ควรยึดติดกับวิธีการแบบเดิม

ต่อไปเราจะอธิบายโดยใช้ตัวอย่าง ข้อมูล GDP ของสหรัฐอเมริกาในไตรมาสที่ 4 ของปี 2001 โดยทั่วไปแล้ว ผลผลิตในประเทศ (GDP) จะมีผลกระทบต่อทางการตลาดในสองแง่มุมดังนี้:

• การเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งจะทำให้ค่าเงินของประเทศมีแนวโน้มสูงขึ้น ในทางกลับกันอาจทำให้เงินของประเทศนั้นถูกกดดัน
• หากการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งมาพร้อมกับอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น แนวโน้มการเพิ่มค่าของสกุลเงินจะได้รับผลกระทบ

เมื่อเราวิเคราะห์สถานการณ์ในขณะนั้น เราจะพบว่า:

1. ในปี 2001 เศรษฐกิจสหรัฐกำลังประสบกับสัญญาณการชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง ในไตรมาสที่ 3 GDP ของสหรัฐแสดงการเติบโตที่ติดลบ ทั่วไปแล้วตลาดคาดการณ์ว่าในไตรมาสที่ 4 GDP จะติดลบเช่นกัน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าประเทศจะเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย
2. หลังจากเหตุการณ์ "9/11" ตลาดมีความเห็นว่าภูมิคุ้มกันของเศรษฐกิจสหรัฐจะได้รับผลกระทบหนักขึ้น ข้อมูลเศรษฐกิจนี้สามารถสะท้อนผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ต่อเศรษฐกิจได้โดยตรง
3. เพื่อช่วยเศรษฐกิจที่ซบเซาลง ธนาคารกลางได้ลดอัตราดอกเบี้ยอย่างไม่มีวรรคพัก
4. นักวิเคราะห์ตลาดให้ความสนใจอย่างมาก รายละเอียดและการวิเคราะห์เกี่ยวกับเรื่องนี้แพร่หลายในตลาด

ดังนั้นเราสามารถพิจารณาข้อมูลนี้ว่าเป็นข้อมูลที่สำคัญที่ตลาดจะสนใจ และจะมีผลกระทบในด้านบวกต่อ ตลาด

ตามพื้นฐานนี้เราจึงต้องใช้ความระมัดระวังในการตอบสนองต่อข้อมูลที่เผยแพร่ หากข้อมูลแสดงการติดลบตามที่ตลาดคาดการณ์แน่นอนว่าจะมีแรงกดดันต่อค่าเงินดอลลาร์ ขณะที่เงินยูโรอาจจะเปลี่ยนจากความเป็นกลางเป็นการดีดตัวกลับ แต่ถ้าหากเกิดสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด ค่าเงินดอลลาร์จะได้รับการสนับสนุน

เราควรเตรียมแผนสำรองสำหรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น เพราะเมื่อข้อมูลได้รับการเผยแพร่ GDP ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2001 ได้มีการเพิ่มขึ้นอย่างไม่คาดคิดถึง 0.2% ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ ค่าเงินดอลลาร์จึงได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นทันทีหลังการรายงานข้อมูลนี้