บทเรียนแรกในการลงทุน

ผู้เขียน:   2024-11-15   คลิ:14

บทเรียนแรกในการลงทุน

การเรียนรู้ในการลงทุนครั้งแรกคือการป้องกันทุนไม่ให้สูญเสียมากที่สุด แทนที่จะมองหาหุ้นแบรนด์ดัง เพราะตลาดหุ้นนั้นเต็มไปด้วยโอกาสในการลงทุน และตราบใดที่มีทุน เราก็ไม่ต้องกลัวที่จะไม่มีโอกาส สิ่งที่น่ากลัวคือเมื่อมีโอกาสแต่กลับไม่มีทุนอยู่แล้ว ในวงการลงทุนมีคำพูดว่า การสูญเสียทุนถือว่าฟังดูแย่กว่าการพลาดโอกาสดี นี่คือสิ่งที่ต้องเข้าใจ

การขายหุ้นขาดทุนและจิตวิทยาการลงทุน

การขายหุ้นขาดทุนเป็นการกระทำที่ขัดแย้งกับจิตใจของมนุษย์ เพราะนักลงทุนเลือกหุ้นที่ทำการศึกษาแล้ว การขายหุ้นขาดทุนหมายถึงการยอมรับว่าตนผิด การยอมรับความผิดพลาดเป็นเรื่องที่ยาก; นอกจากนี้ยังมีความกังวลว่า หากขายหุ้นขาดทุนแล้ว หุ้นนั้นจะขึ้นไปสูงมากกว่านี้ เราจึงเสนอวิธีการสร้างจิตวิทยาในการลงทุนและตั้งกฎการขายที่ง่ายต่อการปฏิบัติ เพื่อช่วยให้นักลงทุนหลีกเลี่ยงการสูญเสียมากมาย และปกป้องทุน

การผิดพลาดเป็นเรื่องปกติ

การทำผิดพลาดเป็นเรื่องที่ธรรมดาในการลงทุน มีปัจจัยความไม่แน่นอนมากมาย ดังนั้นแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญในการลงทุนก็ไม่สามารถตัดสินใจในตลาดหุ้นได้อย่างแม่นยำตลอดเวลา นักลงทุนที่มีชื่อเสียงในอเมริกา Bernard Baruch กล่าวว่าผู้ที่รู้วิธีควบคุมการขาดทุนนั้น ถ้าตัดสินใจได้ถูกต้อง 3-4 ครั้งใน 10 การลงทุน ก็สามารถทำกำไรได้มากแล้ว ตลาดหุ้นเป็นตลาดที่พัฒนาตามความสัมพันธ์ระหว่างอุปสงค์และอุปทาน และมันได้พิสูจน์แล้วว่ามุมมองของนักลงทุนทั่วไป มักจะผิด และรวมถึงนักวิเคราะห์ ผู้เชี่ยวชาญในการลงทุน และคนมีชื่อเสียงในสื่อด้วย

กฎการตัดขาดทุน 8%

นักลงทุนเมื่อซื้อหุ้น จะต้องตั้งคำสั่งขายตัดขาดทุน (STOP SELL) ที่ต่ำกว่าราคาเข้าซื้อ 8% ทันที ซึ่งการบริการนี้มีให้ในทุกบริษัทหลักทรัพย์ เมื่อตั้งคำสั่งขาย ควรเลือกตัวเลือกหยุด (STOP) และตั้งราคา STOP PRICE เวลาที่กำหนดสามารถเลือก (GTC) ซึ่งปกติจะมีอายุอยู่ที่ 45 ถึง 60 วัน เมื่อราคาหุ้นต่ำกว่าราคาหยุดคำสั่งนั้นจะเปลี่ยนเป็นคำสั่งขายในราคาตลาด (SELL MARKET) การตั้งคำสั่งขายตัดขาดทุนนี้ช่วยป้องกันการขาดทุนขยายตัวได้

ทำไมถึง 8%?

มีเหตุผลสองประการ ประการแรก เป็นที่รู้กันดีว่าบริษัทที่มีพื้นฐานที่ดีเมื่อวิเคราะห์จากเทคนิค จะไม่มีการย้อนกลับเกิน 8% หากต่ำกว่า 8% จะหมายถึงว่ามีปัญหา ส่วนประการที่สอง หากหุ้นขึ้น 8% จะสามารถชดเชยการสูญเสีย 8% ได้ ยิ่งการขาดทุนมาก การฟื้นตัวก็จะยากขึ้น เช่น หุ้นราคา 100 บาทตกถึง 80 บาท การขึ้นจาก 80 บาทกลับสู่ 100 บาทต้องเพิ่มขึ้น 25% แต่หากราคาหุ้นจาก 100 บาทตกถึง 50 บาท คือตกลง 50% และจาก 50 บาทกลับมาที่ 100 บาทจะต้องเพิ่มถึง 100% การขึ้นของหุ้น 8% เป็นเรื่องง่าย แต่การฟื้นตัวเป็นสองเท่านั้นยากและต้องใช้เวลานาน

การตัดขาดทุนเพื่อเพิ่มผลตอบแทน

ยกตัวอย่างการลงทุน 25,000 บาท โดยกระจายการลงทุนใน 5 หุ้น โดย 60% เป็นการผิดพลาดและ 40% ถูกต้อง โดยใช้กฎการตัดขาดทุน 8% นักลงทุนสามารถยังคงได้ผลตอบแทน โดยการขายหุ้น 3 ตัวที่ขาดทุนลงที่ 8% และหุ้นอีก 2 ตัวได้รับผลตอบแทน คือ 12% กับ 30% ถึงแม้ความสำเร็จจะมีเพียง 40% แต่ก็ยังได้ผลตอบแทน 4% เพราะนักลงทุนได้ควบคุมการขาดทุนไว้ภายใน 8% นักลงทุนสามารถขายหุ้นที่มีผลการดำเนินงานแย่ ๆ ได้ก่อนที่ค่าตัดขาดทุนมันจะถึง 8% แต่การขาดทุนในการลงทุนจะต้องควบคุมให้อยู่ใน 8% เสมอ ไม่มีข้อยกเว้น

การจัดการกับหุ้นที่กลับมาหลังจากการตัดขาดทุน 8%

การตัดขาดทุน 8% เป็นการป้องกันทุนไม่ให้เกิดการสูญเสียใหญ่ การสูญเสีย 8% สามารถถือเป็นค่าใช้จ่ายในการประกันได้



ความคิดเห็นของผู้ใช้

ยังไม่มีความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

เปิดบัญชีกับ โบรกเกอร์ Dupoin

เปิดบัญชีกับ โบรกเกอร์ Dupoin
เปิดบัญชีกับ
โบรกเกอร์ Dupoin
เปิดบัญชีกับ
โบรกเกอร์ Dupoin

เกี่ยวกับเรา

ติดต่อเรา

เรื่องที่น่ารู้

supermodelmy คือเว็บไซต์ที่มุ่งมั่นแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับตลาด Forex และ Cryptocurrency เช่น Bitcoin, Ethereum, XRP, Litecoin และ Dogecoin รวมถึงข้อมูลข่าวสารที่อัปเดตอย่างรวดเร็วทันทุกการเคลื่อนไหวในตลาดเหล่านี้

 

เราไม่สนับสนุนการชักชวนให้เทรดหรือระดมทุนในทุกกรณี เราเป็นเพียงสื่อกลางที่มุ่งมั่นแบ่งปันความรู้เท่านั้น

 

**การซื้อขายสินทรัพย์ทางการเงินทุกชนิดมีความเสี่ยง นักลงทุนหรือนักเก็งกำไรควรทำความเข้าใจก่อนที่จะเข้าซื้อขายสินทรัพย์นั้นๆ**

 

ข้อมูลลิขสิทธิ์และนโยบายการใช้งานของ supermodelmy

  1. 1.รวมคำศัพท์ Forex 
  2. 2.รวมเทคนิคการเทรด Forex
  3. 3.รวมรายชื่อเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร

ติดต่อทางอีเมล: [email protected]

ติดต่อเพิ่มเติมทาง Line:

blog

Copyright 2024 supermodelmy.com © สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย ห้ามทำซ้ำหรือคัดลอกข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต

เรามีนโยบายในการนำเสนอข้อมูลอย่างโปร่งใสและเป็นกลาง ข้อมูลทั้งหมดที่นำเสนอไม่มีเจตนาในการชักชวน ชี้นำ หรือให้คำแนะนำในการลงทุน