ตลาดฟอเร็กซ์

ตลาดฟอเร็กซ์ถูกเรียกว่าเป็นตลาดที่มี “จิตวิญญาณของความเป็นธรรม” แทบจะไม่เกินจริง เพราะมูลค่าการซื้อขายที่เกิน 3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐต่อวัน แสดงให้เห็นถึงสถานะที่ไม่เปลี่ยนแปลงในวงการการเงิน อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบกับตลาดอื่น ๆ การเข้าร่วมของลูกค้าปลีกในตลาดฟอเร็กซ์ยังค่อนข้างต่ำ ซึ่งหมายความว่าการสนับสนุนข้อมูลและการศึกษาในประเทศสำหรับผู้เข้าร่วมในตลาดฟอเร็กซ์ยังมีความล้าหลังอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ผู้เริ่มต้นหลายคนต้องเผชิญกับความยุ่งยาก โดยผู้เขียนได้สรุปข้อห้ามในการซื้อขายฟอเร็กซ์จากประสบการณ์การทำงานในอุตสาหกรรมนี้มา 7 ปี เพื่อแบ่งปันกับผู้อ่าน ดังนี้:

1. การลงทุนระยะยาว

สิ่งแรกที่ต้องทำความเข้าใจคือ ตลาดฟอเร็กซ์มีความแตกต่างพื้นฐานจากตลาดอื่น ตลาดฟอเร็กซ์เป็นตลาดที่มีลักษณะเป็นเกมที่ใช้ความเสี่ยง จึงไม่คุ้มค่าที่จะลงทุนในระยะยาว ข้อมูลเป็นเครื่องพิสูจน์ที่ดีที่สุด ไม่ว่าคุณจะดูย้อนหลังไป 5 ปีหรือ 10 ปี หรือแม้กระทั่งนานกว่านั้น ไม่ว่าจะเปลี่ยนสกุลเงินจากจุดเริ่มต้นไปอย่างไร หลังจากผ่านไปนานแล้ว จะมีผลลัพธ์อยู่เพียง 2 ประเภทเท่านั้น ประเภทแรกคือสกุลเงินที่คุณเปลี่ยนมาได้เสื่อมค่า ทำให้คุณขาดทุนได้จริงๆ ส่วนผลลัพธ์ที่ดีกว่าคือถ้าคุณซื้อสกุลเงินที่มีค่าเกิดขึ้น แต่เมื่อคำนวณจากเวลาแล้ว ผลตอบแทนจะเป็นอย่างไร? หากเราพิจารณาเงินดอลลาร์แคนนาดาในช่วง 5 ปีและ 10 ปีที่ผ่านมา สกุลเงินนี้มีการเพิ่มค่าเทียบกับดอลลาร์สหรัฐสูงสุดเพียง 10% และ 23% เท่านั้น สัดส่วนผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีจะอยู่ที่ประมาณ 2% ซึ่งถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ดังนั้น ก่อนเข้าตลาดฟอเร็กซ์ คุณต้องรู้ว่าตลาดนี้ไม่ใช่ตลาดแบบการถือครองตลอดชีวิตแบบวอร์เรน บัฟเฟต แต่เป็นตลาดที่ต้องการการซื้อขายอย่างขยันขันแข็งเพื่อบรรลุเป้าหมายในการทำกำไร ที่ค่อนข้างเป็นไปได้คือการเลือกกลยุทธ์ระยะยาวที่ไม่เกินหนึ่งปี กล่าวอีกอย่างคือ ตลาดฟอเร็กซ์คือ “ตลาดการซื้อขาย” ที่แท้จริง

2. การกระจายการลงทุน

เช่นเดียวกับเหตุผลข้างต้น ทฤษฎีของมาร์โควิซเกี่ยวกับพอร์ตการลงทุนไม่สามารถใช้ได้กับตลาดฟอเร็กซ์ หากกล่าวว่า “อย่าวางไข่ทั้งหมดไว้ในตะกร้าใบเดียว” เป็นความจริงที่มีพื้นฐานทางทฤษฎีในตลาดอื่น ๆ โดยเฉพาะในตลาดทุน แต่ในตลาดฟอเร็กซ์ ความจริงนี้กลับเป็นเรื่องที่ผิด เพราะต่างจากตลาดทุนที่มีสัดส่วนความสัมพันธ์ที่อ่อนระหว่างสินทรัพย์ต่าง ๆ ตลาดฟอเร็กซ์มีลักษณะเฉพาะในการเชื่อมโยงชัดเจน เช่น ดอลลาร์สหรัฐฯ หลังสงครามโลกครั้งที่สอง แทบทุกสกุลเงินจะมีการเคลื่อนไหวในทิศทางที่สอดคล้องกันกับดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งทำให้การสั่งซื้อในตลาดฟอเร็กซ์อยู่ที่การคาดการณ์การเคลื่อนไหวของตัวชี้วัด หากคุณสามารถคาดการณ์การเคลื่อนไหวของตัวชี้วัดได้ ขั้นตอนถัดไปในการเลือกสกุลเงินกลับมีความสำคัญรองลงมา แน่นอนว่าผมยึดมั่นในหลักการเลือกสรรสกุลเงินเพียงหนึ่งอย่าง หากในระยะเวลานั้นคุณเลือกใช้กลยุทธ์การกระจายการลงทุนมากเกินไป คุณจะสูญเสียพลังงานที่ไม่จำเป็นและมีผลต่อการตัดสินใจในขั้นตอนแรก กล่าวอย่างสุดโต่ง ถ้าคุณมีสินทรัพย์ต่างประเทศในสกุลเงินดอลลาร์ครึ่งหนึ่ง และอีกครึ่งหนึ่งเป็นสกุลเงินอื่นตามดัชนีดอลลาร์ คุณอาจจะไม่โชคดีเพราะพอร์ตการลงทุนของคุณจะอยู่ในภาวะขาดทุนอย่างรุนแรง

3. เชื่อในผู้เชี่ยวชาญ

ผู้ที่เข้าตลาดใหม่หลายคนมักจะเกิดความชอบกับนักวิเคราะห์บางคนเมื่ออ่านบทวิเคราะห์ฟอเร็กซ์จากช่องทางต่าง ๆ แน่นอนว่ายังมีนักวิเคราะห์ฟอเร็กซ์จำนวนมากที่มีความแม่นยำในตลาด แต่ไม่ได้หมายความว่าจะนำมาซึ่งผลประโยชน์ที่แท้จริงในการซื้อขายของคุณ กล่าวได้ว่าบทวิเคราะห์ฟอเร็กซ์ส่วนใหญ่ขาดความทันเหตุการณ์ ซึ่งสำคัญกว่านั้นคือกลยุทธ์การซื้อขายส่วนใหญ่ไม่เคยอยู่ในสภาพคงที่ หากคุณเพียงฟังคำแนะนำการเข้าตลาดจากผู้เชี่ยวชาญเพียงครั้งเดียว โดยมองข้ามกำไรแบบไดนามิก การหยุดขาดทุน และการเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ในสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด ความเสี่ยงที่คุณจะต้องเผชิญในเรื่องการตามรอยคำแนะนำเหล่านั้นจะสูง ดังนั้นแทนที่จะตาม “ปลาจากผู้เชี่ยวชาญ” จึงควรเรียนรู้ “การตกปลาจากผู้เชี่ยวชาญ” เพื่อให้ในระยะยาว คุณจะสามารถเป็นผู้ชนะในตลาดนี้ ไม่ใช่ผู้แพ้