ในตลาดทุน เครื่องมือสำคัญสำหรับนักลงทุนมีดังนี้:
ทำไมต้องวางจุดตัดขาดทุนไว้เป็นอันดับแรก นักลงทุนที่มีประสบการณ์ย่อมเข้าใจได้ดี ฉันมักจะพูดเตือนเพื่อนๆ (โดยเฉพาะผู้ที่เพิ่งเข้าตลาด) ว่าต้องตั้งจุดตัดขาดทุน แต่หลายคนไม่ยอมฟังท้ายสุดก็จะได้เรียนรู้จากประสบการณ์นั้น เพื่อจดจำความสำคัญของจุดตัดขาดทุนในครั้งต่อไป
พูดง่ายๆ ว่าคือการควบคุมตำแหน่งการลงทุน โดยเฉพาะเมื่อมีการใช้เลเวอเรจ จะต้องคำนวณตำแหน่งของตนให้ดี ซึ่งจะขึ้นอยู่กับเงินทุน เลือกการใช้เลเวอเรจที่เหมาะสม จากนั้นใช้เงินทุนประมาณ 5% ถึง 10% ในการเทรด การเกิน 15% จะไม่แนะนำ ซึ่งเป็นข้อมูลพื้นฐานที่นักลงทุนครั้งแรกควรจดจำ นักลงทุนที่ชอบความเสี่ยงบางคนใช้เงิน 85% ถึง 90% ในการทำกำไรจากตลาดที่มีแนวโน้มเดียว ถ้าเป็นเช่นนั้นจะต้องหาพื้นที่ที่มีระบบมาร์จิ้น 100% เพื่อปิดออเดอร์อัตโนมัติ มิฉะนั้นก็จะขาดทุนอย่างหนัก
นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จทุกคนย่อมมีสไตล์ที่แตกต่างกัน นักลงทุนที่ล้มเหลวจะมีข้อบกพร่องบางอย่าง หากไม่สามารถเอาชนะจุดนี้ได้ก็จะไม่สามารถเป็นนักลงทุนที่เติบโตขึ้นได้ ในนั้นไม่สามารถทำกำไรได้อย่างสม่ำเสมอในตลาดนี้
ไม่ว่านักลงทุนที่มีประสบการณ์หรือไม่มีประสบการณ์ หากมีความปรารถนาที่จะเป็นนักลงทุนที่โตขึ้น จะต้องเข้าใจความสำคัญของเเผนภูมิเทียน ดังนั้นผู้คนจึงมักถามกันว่าจะอ่านหนังสือไหนเป็นพื้นฐาน มีคำตอบที่เป็นเอกฉันท์คือ เเผนภูมิเทียน ซึ่งถูกสร้างขึ้นโดยโทกุกาวะ อิเอยาสุ ในสมัยเอโดะ (แม้ว่าฉันจะไม่ชอบชาวญี่ปุ่น แต่เรื่องที่มีคุณค่าก็ควรศึกษา เพราะไม่มีใครที่ไม่ต้องการทำเงิน)
เเผนภูมิเทียน หรือ K-line ที่เรากล่าวถึงกัน ฐานของ K-line จะประกอบด้วย เส้นเรียวด้านบนเรียกว่า “เงาขึ้น” ตัวกลางเรียกว่า “แท่ง” ส่วนเส้นเรียวด้านล่างเรียกว่า “เงาลง” เมื่อราคาปิดสูงกว่าราคาเปิด ซึ่งหมายถึงแนวโน้มราคาที่เพิ่มขึ้น เราจะเรียก K-line ว่า “แท่งเทียนสีขาว” โดยปกติแท่งจะเป็นสีขาวหรือสีแดง ในกรณีนี้ ความยาวของเงาขึ้นจะแสดงถึงความแตกต่างระหว่างราคาสูงสุดกับราคาปิด ส่วนความยาวของแท่งจะแสดงถึงความแตกต่างระหว่างราคาปิดและราคาเปิด
ช่วงเวลาที่ใช้ในการคำนวณเเผนภูมิเทียนที่พบทั่วไปมีดังนี้: รายสัปดาห์, รายวัน, 4 ชั่วโมง, 1 ชั่วโมง, 30 นาที, 15 นาที, 5 นาที, และ 1 นาที
ในอาชีพการเงินกว่า 3 ปี จะมีคนถามฉันว่า “ครูครับ ในการเทรด ฉันควรดูช่วงเวลาแค่ไหน?” ฉันไม่เคยรู้สไตล์การเทรดของเขา จึงถามคำถามสองข้อคือ หนึ่ง: เงินกำไรที่คุณวางแผนไว้สำหรับตำแหน่งนี้คือเท่าไหร่? สอง: คุณวางแผนที่จะปิดตำแหน่งนี้ในระยะเวลาเท่าไหร่?
โดยการวิเคราะห์จากจุดกำไรทำให้เราทราบได้ว่าควรตั้งค่าจุดตั้งเป้ากับจุดตัดขาดทุนได้อย่างไร โดยปกติสัดส่วนคือ 3:2 ถึง 2:1 หากคุณสามารถทำกำไรได้ 5 ตำแหน่งจาก 10 ตำแหน่ง คุณก็จะยังมีผลกำไร แม้ที่จริงในแต่ละการเทรด อาจไม่ได้ปิดตำแหน่งตามจุดกำไรและจุดตัดขาดทุนเสมอไป หากคุณเห็นว่าใกล้จะไปถึงจุดกำไร แต่ตลาดมีแนวโน้มเปลี่ยนไป คุณสามารถคิดที่จะปิดตำแหน่งด้วยตนเอง การถือครองตำแหน่งที่สำเร็จมากขึ้นจะทำให้คุณมีผลกำไรมากขึ้น
จากระยะเวลาที่ถือครอง เราสามารถเข้าใจได้ว่าควรดูเเผนภูมิเทียนในช่วงเวลาประมาณไหน ที่ปกติแล้วอัตราส่วนระหว่างระยะเวลาถือครองต่อช่วงเวลาเป็น 1:1 ถึง 1:4 ถ้าเวลาถือครองของคุณคือหนึ่งชั่วโมง แนะนำให้ดู K-line 4 ชั่วโมงหรือ 1 ชั่วโมง หากเวลาถือครองของคุณเป็น 30 นาที แนะนำให้ดู K-line 1 ชั่วโมงหรือ 30 นาที
เหตุผลคือเมื่อ K-line ถัดไปไม่แสดงตามแพทเทิร์นที่คุณต้องการ เราต้องเลือกว่าจะรอไปต่อหรือลงทุนตั้งแต่ต้น การรอคอยจะมีความเสี่ยง และเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงนี้ เราต้องวางกลยุทธ์ในขั้นเริ่มต้น นักลงทุนที่มีประสบการณ์จะมองไปในระยะยาว นี่เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จ
2024-11-15
การประยุกต์ใช้แนวโน้มในตลาดหุ้นคือแผนภาพการลงทุนที่สำคัญสำหรับนักลงทุนทุกคน ศึกษาการวิเคราะห์แนวโน้มเพื่อให้สามารถตัดสินใจซื้อขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การลงทุนแนวโน้มตลาดหุ้นวิเคราะห์ทางเทคนิคการซื้อขายการสนับสนุนและแรงกดดัน
เกี่ยวกับเรา
ติดต่อเรา
เรื่องที่น่ารู้
supermodelmy คือเว็บไซต์ที่มุ่งมั่นแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับตลาด Forex และ Cryptocurrency เช่น Bitcoin, Ethereum, XRP, Litecoin และ Dogecoin รวมถึงข้อมูลข่าวสารที่อัปเดตอย่างรวดเร็วทันทุกการเคลื่อนไหวในตลาดเหล่านี้
เราไม่สนับสนุนการชักชวนให้เทรดหรือระดมทุนในทุกกรณี เราเป็นเพียงสื่อกลางที่มุ่งมั่นแบ่งปันความรู้เท่านั้น
**การซื้อขายสินทรัพย์ทางการเงินทุกชนิดมีความเสี่ยง นักลงทุนหรือนักเก็งกำไรควรทำความเข้าใจก่อนที่จะเข้าซื้อขายสินทรัพย์นั้นๆ**
ข้อมูลลิขสิทธิ์และนโยบายการใช้งานของ supermodelmy
Copyright 2024 supermodelmy.com © สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย ห้ามทำซ้ำหรือคัดลอกข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต
เรามีนโยบายในการนำเสนอข้อมูลอย่างโปร่งใสและเป็นกลาง ข้อมูลทั้งหมดที่นำเสนอไม่มีเจตนาในการชักชวน ชี้นำ หรือให้คำแนะนำในการลงทุน
ความคิดเห็นของผู้ใช้
ยังไม่มีความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น