การซื้อขายในวันเดียวเหมือนการพนันหรือไม่?
กลยุทธ์และสไตล์การลงทุนของนักเทรดนั้นแตกต่างกัน ดังนั้นคำตอบจึงแตกต่างกันด้วย อย่างไรก็ตาม ฉันสามารถบอกได้อย่างมั่นใจว่าการซื้อขายในตลาดนั้นไม่เหมือนการพนันเลย การเล่นการพนันนั้นมีอัตราได้เสียที่แทบตายตัว ในขณะที่การซื้อขายนั้นยากที่จะคาดเดาได้ ตลาดหรือการซื้อขายจะไม่มีข้อได้เปรียบแบบลับๆ เหมือนคาสิโน หากคุณสามารถปฏิบัติตามหลักการการซื้อขายได้อย่างเต็มที่และมุ่งมั่นกับกลยุทธ์การซื้อขาย ก็จะสามารถสร้างผลกำไรในตลาดได้ ถ้าคุณเข้าใจการซื้อขายในลักษณะการดวงดีเพียงอย่างเดียว ตลาดก็จะสอนบทเรียนที่เจ็บปวดให้กับคุณ
ถามตัวเอง 8 คำถาม
มีหลายคนที่มักจะทำให้เส้นแบ่งระหว่างการซื้อขายกับการพนันเบลอเมื่อคุณเริ่มมีทัศนคติในฐานะนักพนันมากกว่านักเทรด จึงยากที่จะหลีกเลี่ยงความล้มเหลว ฉันอยากถามคำถาม 8 ข้อ เพื่อสะท้อนตัวเองว่าคุณอาจจะตกอยู่ในสภาวะการพนันหรือไม่
1. คุณเคยทุ่มเงินทั้งหมดในการซื้อขายหรือไม่?
ขึ้นอยู่กับประเภทบัญชีและตลาดที่คุณทำการซื้อขาย โบรกเกอร์จะอนุญาตให้คุณซื้อขายด้วยหลักประกันในอัตราส่วนที่เหมาะสมกับเงินสดที่คุณมี คุณต้องมั่นใจในอัตราส่วนผลตอบแทนต่อความเสี่ยงในแต่ละการซื้อขาย และต้องปฏิบัติตามหลักการบริหารเงินที่เหมาะสม หากคุณลงทุนเงินทั้งหมดในการซื้อขายเดียว คุณกำลังเสี่ยงเกินไปและหวังในกำไรที่มากเกินไป
2. คุณมีการซื้อขายเกินจริงหรือไม่?
แม้นักเทรดที่เก่งที่สุดก็ตาม ย่อมมีช่วงเวลาหดหู่รู้สึกเหมือนตลาดอยู่ข้างตรงข้าม ไม่สามารถสร้างกำไรได้ นักเทรดที่ฉลาดมักจะเลือกหยุดการซื้อขายเวลาสักระยะหรือจำกัดจำนวนการลงทุนให้มีขนาดเล็ก เมื่ออยู่ในช่วงหดหู่ แต่หากในช่วงเช่นนี้กลับทำการซื้อขายมากขึ้นเพื่อหวังเปลี่ยนแปลงสถานการณ์จริง เท่ากับว่าคุณก็ผ่านเกณฑ์การลงทุนและการเดิมพันแล้ว
3. คุณใช้บัตรเครดิตหรือเงินกู้ในการซื้อขายหรือไม่?
คุณไม่ควรใช้บัตรเครดิตหรือเงินกู้ในการซื้อขายในทุกกรณี อัตราเลเวอเรจในตลาดสามารถให้คุณซื้อขายด้วยเงินจำนวนมากอยู่แล้ว หลายคนใช้บัตรเครดิตหรือเงินกู้เพราะความโลภและโง่เขลา ถ้าคุณใช้บัตรเครดิตหรือกู้เงินจากคนอื่น ฉันขอแนะนำให้เลิกพฤติกรรมนี้โดยเร็ว
4. อารมณ์ของคุณเคยรุนแรงมากหรือไม่?
ลักษณะหนึ่งของนักพนันคือความรู้สึกที่อยู่ในภาวะสุดขีด จะมีความรู้สึกดีใจหลังจากการชนะหรือซึมเศร้าหลังจากการแพ้ หากคุณไม่มีอารมณ์ที่มั่นคง การซื้อขายอาจนำความรู้สึกแบบเดิมนี้กลับมาหาคุณ คุณอาจไม่อยากพบปะครอบครัวเพราะกลัวการตั้งคำถาม หรือรู้สึกว่าพวกเขาจะทำให้คุณไม่สามารถมุ่งมั่นในการซื้อขายได้
5. คุณมีหลักการซื้อขายหรือไม่?
ตลาดมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ไม่มีใครสามารถคาดการณ์ได้ว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น สิ่งที่ไม่เปลี่ยนแปลงคือหลักการซื้อขายของคุณ การเปลี่ยนแปลงในตลาดสามารถคัดกรองนักเทรดที่ไม่มีหลักการออกไปได้อย่างเร็ว แต่ถ้าคุณละทิ้งหลักการของตนเอง คุณก็จะเจอปัญหาใหญ่แน่นอน
6. ตลาดกลายเป็นโลกทั้งใบของคุณหรือไม่?
คำถามที่ฉันอยากรู้คือ ตลาดได้กลายเป็นทุกอย่างในชีวิตคุณแล้วหรือ มันได้แทนที่ความสัมพันธ์กับเพื่อนและครอบครัวแล้วหรือไม่ คุณพูดคุยเกี่ยวกับการซื้อขายเสมอหรือไม่? หากคุณไม่สามารถรู้สึกถึงความสนุกเล็กๆน้อยๆในชีวิตประจำวันได้ และทุกอย่างวนเวียนอยู่กับตลาด นั่นอาจหมายความว่าคุณกำลังมีลักษณะเหมือนนักพนันแล้ว
7. คุณปฏิเสธว่ามีปัญหาหรือไม่?
หากสถานการณ์การซื้อขายของคุณแย่มาก ย่อมมีคนสังเกตได้ เช่น ภรรยาของคุณหรือเพื่อนของคุณ ช่วงแรกอาจจะให้ความเห็นว่าอะไรอาจจะไม่เป็นไปตามคาด แต่เมื่อจิตใจคุณแย่ลงก็ไม่อยากให้ใครพูดถึงการซื้อขายอีก เพราะรู้สึกเหมือนเป็นเหยื่อ นี่คือความรู้สึกที่นักพนันมักมีเมื่อพวกเขาล้มเหลว
8. คุณตั้ง Stop Loss หรือไม่?
นักเทรดทุกคนต้องทำใจที่จะคิดถึงกรณีเลวร้ายไว้ก่อนเสมอ ถ้าตลาดไม่เป็นใจ คุณจะออกจากการซื้อขายอย่างไร Stop Loss จึงสำคัญกับนักเทรดทุกคน และมันช่วยป้องกันขาดทุนมากขึ้น
บทสรุป
หลายคนมีทัศนคติต่อการซื้อขายแบบสะเพร่ามาก ซึ่งนำไปสู่เส้นแบ่งระหว่างการลงทุนและการพนันที่ไม่ชัดเจน คุณจำเป็นต้องซื่อสัตย์กับตัวเอง หากคุณเป็นนักเทรดในวันเดียว และท่านมีอาการข้างต้น การซื้อขายของท่านอาจจะไม่ได้เป็นไปอย่างราบรื่น คำพูดอาจจะไม่อยากฟัง แต่ก็นี่คือความจริงของตลาด
ความคิดเห็นของผู้ใช้
ยังไม่มีความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น